ส่งตรงสดๆ ร้อนๆ จากกล้องมือถือของ “จิม-โสภณ ศักดาพิศิษฏ์” ผู้กำกับ "เพื่อน..ที่ระลึก” ที่แอบถ่ายการพากย์เสียงทับหรือ ADR ของเหล่านักแสดง น้ำฟ้า-ธัญญภัสร์, แคร์-ปาณิสรา, ลิลลี่-อภิชญา และบี-น้ำทิพย์ เผยเบื้องหลัง #งานหนัก #งานดราม่า #งานน้ำตา ที่ถูกขยี้เข้นอารมณ์ไม่ต่างจากการแสดงจริงๆ
GDH ไม่รอช้า ตรงรี่เข้าไปสอบปากคำผกก.จิมถึงกรณีคลิปหลุดนี้ ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และด้วยเสน่ห์อันใดกันผกก. ผู้นี้ถึงทำให้สาวๆ ต้องเสียน้ำตา!
----
GDH : ทำไมเรื่องนี้ต้องมีการทำ ADR (พากย์ทับ)
ผกก. จิม : สำหรับเรื่องนี้ โลเคชั่นที่ถ่ายหลายๆ ที่นั้นอยู่ใจกลางเมืองจึงมีเสียงดังเยอะมาก และด้วยตัวตึกร้างเองก็เป็นพื้นที่เปิดทำให้มีเสียงรบกวนเยอะ พอเป็นซีนที่อยากให้บรรยากาศมันเงียบๆ เพื่อให้คนดูโฟกัสกับตัวละคร แต่หลายๆ ครั้งจะโดนเสียงรถแทรกมาดึงความสนใจ เลยต้องมีการพากย์ใหม่ให้มีบรรยากาศเงียบๆ โดยเฉพาะซีนอารมณ์ที่ตัวละครต้องร้องไห้
----
GDH : ใช้เวลากับการพากย์มากแค่ไหน
ผกก. จิม : ระยะเวลาของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ของบี-น้ำทิพย์ก็ต้องเข้ามา 2 วัน เพราะในเรื่องมีซีนอารมณ์เยอะมาก ไม่ว่าจะร้องไห้หรือตื่นเต้น ตอนถ่ายมาพวกเสียงสะอื้นหรือเสียงหายใจมันจะเบามาก เพราะไมค์บูมเราไม่ได้จ่อใกล้มาก ดังนั้นเสียงดีเทลเหล่านี้จะเบามากจนไม่ได้ยิน พอเพิ่มเสียงนั้นในขั้นตอน post production ก็จะดึงพวกเสียงรถและเสียงบรรยากาศอื่นๆ ตามขึ้นมาด้วย ซีนอารมณ์เหล่านี้ก็ต้องนำมาพากย์ใหม่ เพื่อให้รู้สึกถึงอารมณ์ชัดมากขึ้น พวกซีนน่ากลัวหรือตื่นเต้นนั้นถ้าได้ยินเสียงหายใจด้วย มันเพิ่มอารมณ์ความรู้สึกกลัว คือการแสดงในหนังผีมันไม่ได้ออกมาแค่แววตากับสีหน้าอย่างเดียว แต่จังหวะการหายใจสั้น เร็ว หรือเบา มันเป็นสิ่งที่นำมาสื่อสารอารมณ์ได้
อย่างของบีที่นอนร้องไห้ ลองสังเกตว่าเวลาเรานั่ง ยืน หรือนอน เสียงหายใจทุกอย่างมันแตกต่างกัน เวลาคนเรานอนร้องไห้มันจะมีเสียงสะอื้นของน้ำมูกและลำคอบางอย่างที่จะไม่เหมือนกับตอนยืน ดังนั้นบีต้องพากย์เสียงในท่าเดียวกับซีนเพื่อให้ได้อารมณ์ใกล้เคียงเหมือนเล่นจริง มันเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญมากๆ
----
GDH : การทำงานในขั้นตอนพากย์ทับกับเหล่านักแสดง “เพื่อน..ที่ระลึก” เป็นอย่างไรบ้าง
ผกก. จิม : เราไม่อยากให้การทำ ADR เป็นแค่การพากย์เสียง แต่อยากได้เสียงจริงอารมณ์เดียวกันกับตอนถ่าย สำหรับลิลลี่เองเราอยากให้เค้าพูดโดยที่ไม่ใช่แกล้งแค่ทางเสียงเหมือนร้องไห้ แต่อยากให้พูดในเวลาที่ร้องไห้จริงๆ เวลาพากย์เสียงเลยให้เค้าเล่นจริง โดยมี acting coach มาช่วยบิ้วให้เข้าถึงอารมณ์แล้วค่อยแสดงออกมา
จริงๆ ADR คือการพากย์เสียงใหม่ แต่สำหรับนักแสดงชุดนี้ เราต้องการให้เป็นเหมือนแสดงอีกรอบนึงแล้วบันทึกเสียงใหม่ในห้องอัดเสียง ทุกอย่างที่เค้าพูดออกมามันจึงไม่เหมือนการพากย์ แต่เป็นการเล่นรอบสองในพื้นที่ที่เงียบลง ซึ่งมันยากกว่าครั้งแรกเพราะในโลเคชั่นจริงมันคือเล่นตามฟีลลิ่ง แต่ ADR คือเล่นตามสิ่งที่เค้าเคยเล่นไว้ก่อน ก็มีหลายๆ ครั้งที่ยากมาก เพราะมันควบคุมจังหวะการพูดได้ไม่เหมือนเดิม นักแสดงต้องพยายามเล่นแล้วเล่นอีกให้ได้จังหวะเดิม มันก็เลยเหมือนการเล่นสองรอบ มากกว่ามาพากย์เสียงอย่างเดียว
----
GDH : ดูจากในคลิปแล้ว เห็นว่ามีการให้ร้องไห้ในหลากหลายระดับมาก คิดว่าตัวเองโหดมั้ย
ผกก. จิม : เราว่ามันไม่เรียกว่าโหดนะ เพราะมันเป็นสิ่งที่เราและนักแสดงเห็นตรงกันว่าเราอยากจะได้แบบนี้ ไปถึงจุดนี้ร่วมกัน เวลานักแสดงหายใจ ร้องไห้ หรือเหนื่อย ไม่ว่าจะเป็นตอนเล่นจริงหรือพากย์เสียงก็ตาม มันเป็นสิ่งที่ทุกคนเต็มใจที่จะทำ อยากทำให้ดีที่สุด เรายอมที่จะเหนื่อย ยอมยาก เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด เราก็เลยคิดว่าเราไม่โหดนะ (หัวเราะ)
----
#เพื่อนที่ระลึก
#ThePromise