Spoiler Alert ! เผยพระเอกตัวจริง น้อง.พี่.ที่รัก ไม่ใช่ซันนี่ ! ไม่ใช่นิชคุณ ! แต่คือ “น้องแอ๊ด” !! รางวัลขโมยซีนดีเด่นต้องยกให้เค้าคนนี้ “น้องแอ๊ด” หรือเจ้านกฮูกตาโต๊ โต ที่ “พี่ชัช” เอามาเลี้ยงไว้ที่บ้าน ที่โผล่มาไม่กี่ซีน แถมบทพูดก็ไม่มี แต่ก็เรียกเสียงฮือฮาแห่งความเอ็นดูได้อย่างสนั่นโรง ที่ผ่านมาเราก็ได้เปิดวาร์ปนักแสดงเล็กใหญ่กันไปแล้ว วันนี้ถึงเวลาที่เราจะพาทุกคนไปรู้จักตัวตนที่แท้จริงของน้องแอ๊ดบ้าง พร้อมบทสัมภาษณ์แบบ exclusive สุด ๆ กับน้องแอ๊ดตัวจริงเสียงจริงแบบไม่ใช้สลิงไม่ใช้สตั้นท์ ! เห็นแล้วมันช่างดุ๊กดิ๊กจั๊กจี้หัวใจซะจริง พ่อคุ้ณณณ
วันนี้เราเดินทางมาเยือนบ้าน Animal Holic เพื่อมาพบปะพูดคุยกับดาราใหญ่ (แต่ตัวจิ๋ว) ของ "น้อง.พี่.ที่รัก” “น้องแอ๊ด” ประกบด้วยผู้จัดการส่วนตัว “พี่อาลีฟ จันทร์ปรุงตน” ผู้ทำหน้าที่ดูแลและให้ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับแอ๊ด
“น้องแอ๊ด” โดนตั้งชื่อแบบมงคลว่า “แอ๊ด” ตามเสียงที่ชอบทำเวลาขู่สัตว์ (และคน) แอ๊ดเป็นนกฮูกสายพันธุ์ White Face (ไวท์เฟซ) สังเกตได้ว่ามันจะตัดขาวมาดำตรงช่วงแก้มและลงมาตรงคอก่อนจะตัดเข้าสีดำและเทา โดยมีถิ่นฐานกำเนิดอยู่ที่ทวีปแอฟริกา เป็นสัตว์เขตร้อน
ส่วนเรื่องกินแอ๊ดก็ไม่ค่อยเรื่องมากเท่าไหร่ แค่ลูกไก่วันละตัวเท่านั้น (!!)
หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า เอ๊ะ.. แล้วการเลี้ยงนกฮูกนี่ถือว่าผิดกฏหมายหรือเปล่า บอกได้เลยว่าไม่ผิดกฏหมายจ้าา เพราะสายพันธุ์ White Face เนี่ย เป็นการนำเข้าจากประเทศเบลเยี่ยมอย่างถูกกฏหมาย หากมีใบอนุญาตก็สามารถเลี้ยงได้ โดยมีสินสอดเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 45,000 บาท มักจะนำเข้าจำนวนไม่กี่ตัวต่อปี แถมยังเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมของชาวญี่ปุ่นอีกด้วย ทำให้กลายเป็นสัตว์เลี้ยงหายากในประเทศไทย
(แต่เสริมไว้เป็นความรู้อีกนิดนึง สำหรับนกฮูกที่มีสายพันธุ์ไทยถือว่าเป็นสัตว์สงวนและสัตว์ป่าคุ้มครองนะจ๊ะ นกพวกนั้นเลี้ยงไม่ได้ และถือว่าผิดกฏหมาย)
เมื่อถามพี่อาลีฟถึงความน่ารักของนกฮูก พี่อาลีฟก็เล่าถึงความน่ารักของแอ๊ด ที่แทบไม่ต่างจากสัตว์เลี้ยงทั่ว ๆ ไปเลย
“น่าจะเป็นที่นิสัยใจคอ แอ๊ดมีมุมอ้อนบ้างเหมือนกัน อย่างเวลาเราลูบหัวเค้าก็จะหลับตาเคลิ้ม ถึงแม้นกฮูกจะเป็นนกนักล่าก็จริง แต่พอถูกนำมาเลี้ยงก็สามารถอยู่กับคนได้ มีความเชื่องคล้าย ๆ สุนัข ไม่ดุเลย สามารถวิ่งหรือบินตามเจ้าของได้ ถ้าเลี้ยงให้คุ้นเคยกับคน ฝึกให้เค้าได้กินอาหารจากเราบ่อย ๆ ให้เค้ารู้ว่าเราคือที่กินเค้าก็จะไม่ไปไหน เพราะโดยธรรมชาติของนกสายพันธุ์นี้ส่วนใหญ่จะไม่ชอบย้ายถิ่นฐาน คือถ้าปล่อยหรือบังเอิญหลุดเนี่ย มันอาจจะบินไปไหนต่อไหนตามสัญชาตญาณได้ แต่ก็จะกลับมาที่เดิมอยู่ดี แต่ไม่ปล่อยนี่ดีที่สุดนะ ให้เค้าอยู่ในกรงใหญ่ ๆ จะดีกว่า”
พี่อาลีฟ : “เวลาเราพาเค้าเดินเหินไปไหนแอ๊ดจะเอาเท้าจับตามแขนของเรา หลาย ๆ คนจะกลัวปากหรือจงอยของเค้าแต่ความจริงตรงนั้นไม่เจ็บเลย ถ้าคนโดนนกจิกก็แปลว่าเค้าไม่ชอบให้ยุ่งมากกว่า ถ้าจะโจมตีเค้าจะใช้เท้า สังเกตได้ตรงกรงเล็บที่ใหญ่”
แต่กว่าจะให้นกฮูกมั่นใจและกล้าที่จะเกาะแขนเรานั้น ก็ต้องใช้เวลาฝึกฝนทั้งเจ้าของและเจ้านก “วิธีการจับต้องเริ่มต้นจากที่ดึงเชือกเบา ๆ แตะที่ขา เค้าก็จะก้าวขาขึ้นมาเกาะที่มือ คือคนที่เลี้ยงนกเหล่านี้จะต้องใช้สายคล้องเท้าหรือที่เรียกว่า “สายเจส” สำคัญมากในเวลาฝึกเค้า อย่างเวลาเราส่งให้เค้าบินก็ต้องเหวี่ยงสายไปด้วย แต่เวลาอยู่ในกรงเราก็ปล่อยเชือกออก ให้เค้าได้บินในกรงอย่างสบาย ๆ
ความไว้เนื้อเชื่อใจของนกฮูกมันจะเริ่มต้นตั้งแต่เค้าเห็นว่าเราเป็นที่ปลอดภัยสำหรับเค้าได้ อย่างเช่นตอนที่เราถือเค้าแล้วเค้าแต่งตัวบนมือเรา ไซร้จิกขนไปมา หรือแม้กระทั่งหลับบนมือเรา นั่นแปลว่าเค้าไว้ใจเราที่สุดแล้ว เมื่อได้ความไว้ใจมาก็จะเล่นกับเค้าได้ เริ่มต้นจากลูบที่หัวเค้าแล้วก็เกาตรงคางตรงแก้ม แต่ก่อนจะเล่นต้องให้เค้าอิ่มก่อนนะ ให้เค้าได้รู้ที่กิน แล้วค่อยเอามาเล่น” พี่อาลีฟเล่าถึงการเล่นกับนกฮูก
สำหรับการแสดงเรื่องแรกของแอ๊ดนั้นฉายแววความเป็นนักแสดงมืออาชีพสุด ๆ “เวลาจะให้เค้าเล่นอะไรเราต้องเรียกร้องความสนใจด้วยเสียง หรือไม่ก็ต้องเอาตุ๊กตามาหลอกล่อความสนใจ ยิ่งเป็นพวกตุ๊กตาหมานี่ยิ่งสนใจ เพราะเค้าไม่ชอบหมา” พี่อาลีฟเล่าถึงประสบการณ์ของแอ๊ดในวันถ่ายงาน
“อย่างฉากที่เค้าถูกเอาไปฝากไว้ที่ร้าน ตอนแรกก็ไม่ยอมมองตามพี่ซันนี่ พี่บอล (ผู้กำกับ) เลยถามว่าทำยังไงได้บ้างให้แอ๊ดสนใจมองตาม เราก็ต้องหาลูกเล่นต่าง ๆ มาล่อความสนใจเค้าไว้ วันนั้นดันไม่ได้เอาตุ๊กตาไป เลยถ่ายไปอยู่หลายเทคมากกว่าจะได้ ทั้งดีดนิ้ว ตบมือ เรียกชื่อ ส่งเสียงต่าง ๆ นา ๆ สุดท้ายก็ได้ช็อตที่แอ๊ดมองตามพี่ซันนี่แบบจังหวะพอดิบพอดี”
ถึงแม้นกสายพันธุ์ White Face จะน่ารักและเลี้ยงง่าย แต่การคิดจะเลี้ยงเราต้องศึกษาอย่างถี่ถ้วนและเข้าใจในธรรมชาติของเค้าด้วย ไม่ว่าจะสภาวะการอยู่หรือการกิน
“สัตว์กินเนื้อปากเหม็นและอุจจาระเหม็นแน่นอน ตรงนี้เราต้องรับให้ได้ หมั่นดูแลให้สะอาดเข้าไว้ เพราะนกพวกนี้ถ้าเค้าเก็บความชื้นไว้ในตัวมากมันจะไม่ดี พวกเค้ามาจากแอฟริกาเขตร้อนแห้งก็จะรับความชื้นไม่ค่อยได้”
