กว่าจะออกมาเป็น '2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว' ภาพยนตร์สารคดีคลุกวงในเบื้องหน้าเบื้องหลังการวิ่งของพี่ตูนในโครงการก้าวคนละก้าว ทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังสารคดีเรื่องนี้ต้องทุ่มเททั้งพลังกายพลังใจในการติดตามพี่ตูนตลอด 55 วัน เพื่อนำเรื่องราวการเดินทางของคณะก้าวคนละก้าวออกมาถ่ายทอดสู่สายตาผู้ชม พวกเขาเหล่านี้เป็นใครมาจากไหนกันบ้าง วันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จัก
ณฐพล บุญประกอบ (ไก่) - Director
หลังช่วยพี่ชายแท้ๆอย่าง หมู ชยนพ บุญประกอบ เขียนบทภาพยนตร์มาแล้วถึง 2 เรื่อง ทั้ง ‘Suckseed ห่วยขั้นเทพ’ และ ‘เมย์ไหน..ไฟแรงเฟร่อ’ ก็ถึงคราวที่ผู้กำกับมากฝีมืออย่างไก่ ณฐพล บุญประกอบ จะได้โชว์ฝีไม้ลายมือการกำกับภาพยนตร์ขนาดยาวของตัวเองเป็นครั้งแรก
ไก่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาภาพยนตร์และภาพนิ่งจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขาคลุกคลีอยู่ในวงการภาพยนตร์ไทย ทำงานเบื้องหลังทั้งเขียนบท ถ่ายภาพ แต่ที่โดดเด่นสุดคงหนีไม่พ้นผลงานการกำกับมิวสิควีดิโอ หนึ่งในนั้นคือเพลง ‘ฝากไว้’ เพลงประกอบภาพยนตร์ ‘ฝากไว้..ในกายเธอ’ รางวัลมิวสิควิดีโอยอดเยี่ยมจากงานโทรทัศน์ทองคำปี 2556
ด้วยความที่ไก่สนใจด้านการผลิตภาพยนตร์สารคดีเป็นทุนเดิม ทำให้เขาตัดสินใจเดินทางไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่ School of Visual Arts, New York สาขา Social Documentary Film (ผลิตภาพยนตร์สารคดี) และเขาก็ได้ส่งผลงานสารคดีสั้นชื่อ ‘Alex’ ที่ทำร่วมกับเพื่อนๆขณะเรียน เข้าไปติด Shortlist สารคดีสั้นยอดเยี่ยมจาก ‘BAFTA’ Student Film Awards 2017
และใน ‘2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว’ ไก่ก็ได้ทุ่มเทพลังกายพลังใจ ประสบการณ์ทั้งหมดที่สะสมมา พิถีพิถันกับทุกกระบวนการทำงาน ถักทอร้อยเรียง ถ่ายทอดเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ที่ผูกพันกับความรู้สึกของคนไทยทั้งประเทศอย่างการวิ่งในโครงการ ‘ก้าวคนละก้าว’ ให้ออกมาเป็นผลงานภาพยนตร์สารคดีที่สมบูรณ์แบบให้มากที่สุด
ยศวัศ สิทธิวงค์ (เอ็ม) - Director of Photography
คุณอาจจะพอคุ้นหน้าหนุ่มเซอร์คนนี้มาบ้างจากผลงานการแสดงมิวสิควีดิโอเพลง ‘ทางของฝุ่น’ ของศิลปิน ‘อะตอม ชนกันต์’ หรือจากในฐานะ ‘M Yoss’ ศิลปินค่าย 123Records แต่นอกเหนือจากการแสดงและการเป็นศิลปิน ยังมีอีกสิ่งที่ชายคนนี้หลงรักนั่นคืองานด้านการถ่ายภาพ
เอ็มจบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน สาขาภาพยนตร์และภาพถ่าย จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เขามีผลงานถ่ายภาพให้กับมิวสิควีดิโอ เช่นเพลง ‘รอยยิ้ม’ (Scrubb) , Motel california (Temp.) รวมถึง ‘พจนานุกรม’ ผลงานเพลงของเขาเองที่เอ็มรับหน้าที่ควบทั้งการเป็นผู้กำกับและผู้กำกับภาพ
ใน ‘2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว’ เอ็มถูกดึงตัวมารับหน้าที่ตากล้องหลักที่ต้องคอยประกบพี่ตูน เพื่อเก็บภาพเบื้องหลัง ทุกเหตุการณ์สำคัญ ทุกอารมณ์ที่เกิดขึ้นกับพี่ตูนตลอด 55 วันของการวิ่ง ที่รับรองได้ว่าภาพเหตุการณ์ที่ถ่ายจากกล้องของเอ็มจะเป็นภาพที่คุณไม่เคยได้เห็นจากกล้องตัวไหนมาก่อน
ศิววุฒิ เสวตานนท์ (เยเมนส์) - Production Manager
เพื่อนซี้ของไก่ผู้ร่วมทำหนังด้วยกันมาในนามกลุ่ม ‘YeFilm’ ตั้งแต่สมัยยังเรียนอยู่ภาควิชาภาพยนตร์และภาพนิ่ง คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
หลังเรียนจบ เยเมนส์เริ่มต้นอาชีพในวงการด้วยการเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง ‘Suckseed ห่วยขั้นเทพ’ ก่อนจะผันไปจับงานด้านผู้ช่วยผู้กำกับเป็นหลัก เขาค่อยๆสร้างสมประสบการณ์จนขึ้นมาเป็นผู้ช่วยผู้กำกับอันดับต้นๆของวงการหนังไทย
ตลอดเกือบ 10 ปีในวงการ เยเมนส์ต้องพบเจอกับงานกองถ่ายที่ยากลำบากมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทำท่ามกลางอุณหภูมิติดลบกลางภูเขาหิมะใน ‘แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว’ คอยปีนขึ้นปีนลงตึกร้างที่สูงเกือบ 50 ชั้นใน ‘เพื่อนที่ระลึก’ บุกเข้าป่าฝ่าแรงฝนใน ‘ฝนตกที่ห้วยขาแข้ง’ รวมถึงต้องไปติดอยู่บนแพใน ‘คิดถึงวิทยา’
กระทั่งมาถึงโปรเจ็ค ‘2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว’ ด้วยความหฤโหดของการถ่ายทำติดต่อกันตลอด 55 วัน บนเส้นทางเบตง - แม่สาย ก็ทำให้ไก่ไม่ลังเลที่จะดึงเพื่อนซี้คนนี้ให้มาตกระกำลำบากร่วมกันอีกครั้ง โดยเยเมนส์ต้องคอยงัดเอาประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าออกมาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นตลอดเวลาในการถ่ายทำหนังสารคดีที่ไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลย ต้องคอยประสานกับทุกฝ่ายรวมถึงคนในทีมเพื่อซัพพอร์ททุกความตั้งใจในการเก็บภาพบรรยากาศสำคัญๆกลับมาฝากผู้ชมที่จะได้มีโอกาสรับชมภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้
รัชตะ ทองรวย (มอส) - Report
แม้จะไม่ได้จบทางด้านภาพยนตร์แบบรุ่นพี่คนอื่นในทีม แต่ด้วยความสามารถระดับน้องๆ ‘หุ่นยนต์’ ที่ทั้ง ‘อึด-ถึก-ทน’ และมีความทรงจำที่เป็นเลิศ ก็ทำให้มอสถูกดึงมาเป็นสมาชิกร่วมทีมคนสุดท้าย
มอสเพิ่งจบการศึกษาจากภาควิชาวารสารสนเทศ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขารับหน้าที่สำคัญในการคอยอัพโหลดไฟล์ภาพที่ทั้งไก่และเอ็มถ่ายทำมาตลอดทั้งวันลงไปในฮาร์ดดิส จากนั้นจึงค่อยมานั่งไล่ดูภาพในแต่ละไฟล์เพื่อทำการจดบันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง จึงค่อยนำไฟล์ภาพเหล่านั้นรวมทั้งรายงานที่เขาได้จดบันทึกอย่างละเอียดยิบส่งกลับไปยังห้องตัดต่อที่กรุงเทพฯ
หากคำนวนดูแล้ว ไฟล์ภาพวีดิโอที่ผ่านสายตาของมอสทั้งหมดตลอดการถ่ายทำภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ รวมทั้งสิ้นเป็นระยะเวลาประมาณ 271.7 ชั่วโมง หรือกว่า 16,300 นาทีเลยทีเดียว!!
