เบื้องหลังการรวมตัวกันของแก๊ง 404 คือ ความเป็นดรีมทีมที่ ‘เสือ พิชย จรัสบุญประชา’ ผู้กำกับ นึกภาพไว้ตั้งแต่ตอนลงมือเขียนบท ทั้ง ‘เต๋อ-ฉันทวิชช์ / ต้าห์อู๋-พิทยา / นุ้ย-ชูเกียรติ / อาไท-สุภทัต’ ที่เมื่อพวกเขาตอบตกลงว่าจะมารวมตัวกันในหนังเรื่องนี้ ความสุขีนิรันดร์ RUN RUN จึงเกิดขึ้นทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง…
“เคมีระหว่างตัวละคร… ผมนึกถึงทีมฟุตบอลนะครับ มีเต๋อเป็นกองหน้า ต้าห์อู๋เป็นกองกลาง มีพี่นุ้ยกับอาไทเป็นกองหลัง ผมว่าพวกเขาเป็น ‘นักฟุตบอลลีลา’ นะ 4 คนนี้ชอบอยู่ด้วยกัน สนิทกัน ถ่ายหนังเสร็จแล้วก็ยังตามไปคอมเมนต์ไอจีว่าคิดถึงกันอยู่ตลอด ผมว่ามิตรภาพแบบนี้มันส่งผลต่อพลังงานบางอย่างในซีนที่อยู่ในหนังนะครับ”
- ยอร์ช ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์ โปรดิวเซอร์ พูดถึงแก๊งนักแสดงลีลาสุดพลิ้วทั้งสี่ -
“ ‘ต้าห์อู๋’ เป็นสิ่งมีชีวิตที่ผมเซอร์ไพรส์สุดๆ เขาเป็นคนที่มีพลังในเวลาที่คนอื่นไม่เหลือแล้ว แต่เวลาที่คนอื่นเริ่มจะมีพลังกัน เขาจะเริ่มไปนอน แปลกมาก (หัวเราะ) ข้อดีคือทุกครั้งที่ต้องเข้าซีนที่ทุกคนเหนื่อยล้า เขาจะดีดขึ้นมาจนทําให้ทุกคนต้องตามเขาไป”
- เต๋อ ฉันทวิชช์ พูดถึง ต้าห์อู๋ น้องชายผู้มีเอเนอจี้สวนทางกับชาวบ้านตลอด -
“ผมจะปรึกษา ‘พี่เต๋อ’ เรื่องการแสดงตลอด เพราะความสัมพันธ์ระหว่าง ‘นักรบ-น้ำมนต์’ ในหนัง มันเป็นความสัมพันธ์แบบ Toxic Relationship เขาจะเถียงกัน ด่ากัน แต่จริงๆ แล้วน้ำมนต์รักนักรบมาก ซึ่งมันเป็นอะไรที่ซับซ้อน ผมเลยต้องคอยเช็คกับพี่เต๋อตลอดว่าเราตีความตรงกันมั้ย”
- ต้าห์อู๋ พูดถึง การทำงานร่วมกับ เต๋อ พี่ชายที่คอยให้คำปรึกษาตลอดการถ่ายทำ -
“โอ้โห ‘พี่นุ้ย’ นี่มองตาก็รู้ใจ ไม่ต้องเตี๊ยมอะไรกันก่อนเลย แค่มองตาผมก็เดาได้ว่า เราพูดคํานี้ เขาจะต่อด้วยประโยคนี้ หรือเขาพูดคํานี้ อยากให้เราตอบประโยคไหน พี่นุ้ยคือคนที่ทำให้ผมกับพี่เต๋อหลุดขำบ่อยมาก เป็นคนที่พวกเราแพ้ทางเขาจริง”
- อาไท พูดถึง ‘จารย์นุ้ย ผู้สร้างความฮาทั้งในจอและนอกจอ -
“ ‘อาไท’ เขาเป็นเด็กน่ารักอยู่แล้ว มีมุกเยอะแยะมากมาย เราก็อยู่กันแบบพี่น้อง เล่นกันได้เต็มที่ไม่ต้องเกรงใจ เดี๋ยวเราไลน์ขอโทษกัน ขอโทษด้วยนะวันนี้ ถ้าทําอะไรหนักไป หรือว่าล่วงเกินไป ขอโทษด้วยนะจ๊ะ”
- พี่นุ้ย พูดถึง อาไท น้องคนสนิทที่ร่วมมือกันปล่อยมุก จนทีมงานขำกล้องสั่นอยู่หลายฉาก -
“สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับผมคือการกลั้นขำ บางทีมันตลกมาก แล้วผมไปต่อไม่ไหว หลุดขำตลอด เพราะ ‘จารย์นุ้ยกับอาไทเนี่ยไม่ธรรมดาจริงๆ พี่นุ้ยน่ารักมาก สอนอะไรผมหลายอย่างเลย แกจะเรียกตลอดว่า เฮ้ย ต้าห์อู๋ทำแบบนี้สิๆ จะสอนมุกตลกให้”
- ต้าห์อู๋ พูดถึงเบื้องหลังการทำงานที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน -
“บอกเลยนะครับว่าในการทำงานร่วมกัน สิ่งสำคัญอันดับแรกคือ ความสนิทสนมและความเป็นกันเอง ผมรู้สึกกับทุกคนในกองนี้เหมือนเราอยู่ในครอบครัวเดียวกันเลย มันทำให้เรารู้สึกอยากตื่นเช้าไปทำงาน เพราะว่าเราได้เจอเพื่อนร่วมงานที่ดี ทีมงานที่น่ารัก มันทำให้การทำงานถึงแม้จะเหนื่อยขนาดไหน ก็ยังมีความสุขอยู่ ทุกคนทุ่มเทเต็มที่ทั้งนักแสดงและทีมงานเบื้องหลัง”
- พี่นุ้ย พูดถึงความสนิทสนมที่นำมาซึ่งความสนุกสนานที่จะปรากฏในหนังเรื่องนี้ -
“การที่มีนักแสดงทั้งแก๊งเข้าฉากอยู่ในเฟรมเดียวกัน และจังหวะสะดุ้งตรงนั้นต้องช็อตพร้อมกัน มันยากสุดๆ อย่างในฉากคาราโอเกะนี้จังหวะมันจะโบ๊ะบ๊ะมาก แม้ว่ามันจะน่ากลัว แต่มันก็เป็นความน่ากลัวที่มาพร้อมกับเสียงหัวเราะ”
- เสือ ผู้กำกับ พูดถึงฉากที่นักแสดงในเรื่องพูดตรงกันว่าชอบมาก -
“ผมทําหนังเรื่องนี้ภายใต้แนวคิดว่า ผมอยากเป็นเหมือนร้านข้าวหน้าปากซอย ที่จะมีป้าแม่ครัวใจดีให้ข้าวให้กับเราเยอะเต็มจาน ผมอยากเป็นแบบนั้น เลยทำหนังที่มีนักแสดงตลกมารวมตัวกันเยอะๆ มุกตลกในหนังผมก็จัดมาทุกแบบ ทั้งมุกสังขาร มุกเล่นคำ มุกคาเฟ่ มุกโบ๊ะบ๊ะ อะไรผมมีหมด ถ้าคุณไม่ขำมุกนี้ คุณก็รอขำมุกหน้า มันต้องมีซักมุกล่ะนะที่ผมทำให้คุณขำได้ เพราะผมอยากเป็นเฮียตามสั่งที่จัดของอร่อยหลายๆ แบบมาให้ทุกคนได้กินให้อิ่ม มีความสุขกันให้จุกไปเลย”
- เสือ ผู้กำกับ พูดถึงความตั้งใจในการทำหนังเรื่องแรกในชีวิตของเขา -